หลังจากขอเดินป่า กับคนแปลกหน้า ที่ดอยหลวงเชียงดาว
ในกระทู้นี้
http://m.pantip.com/topic/33817090
คราวนี้ขอแบกเป้ ใช้วันลาหยุดยาวๆบนเกาะบ้างค่ะ
(ภาพทั้งหมดจากกล้อง I-Phone)
Facebook :
http://www.facebook.com/AloneAroundMyWay
หนึ่งชีวิตเราจะต้องการอะไรมากมายขนาดไหนกัน
ฉันเองก็ไม่รู้หรอก
ฉันตัดสินใจ ลองปล่อยมือจากความเคยชิน ทั้งที่ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง
ตัดสินใจออกไปเจอกับอะไรข้างหน้า
ที่ยังไม่รู้ว่ามันจะหน้าตาแบบไหน
ฉันแบกเป้ที่จัดข้าวของสำคัญ ...
เดี๋ยวนะ...
ฉันเพิ่งพูดว่าของ "สำคัญ"
ระหว่างจัดเป้ อย่างน้อยๆฉันก็คงพอได้รู้แล้วว่า
อะไรบ้างที่สำคัญจริงๆเมื่อฉันต้องแบกน้ำหนักของมันด้วยสองบ่าของฉันเอง
ฉันขอหยุดงานหนึ่งเดือน เพื่อไปใช้ชีวิตบนเกาะ
สิ่งที่คนใกล้ตัวถามหลังจากรู้แผนการมีทั้ง "ไปทำไม?" "ไปอยู่ยังไง?" "หนึ่งเดือนเลยหรอ?"
"ไม่ทำงาน?" "มีตัง?" "บ้าไปแล้ว" "ติสแตก" "ไปอยู่กับใคร?"
ฉันไม่ได้ตอบคำถามทั้งหมดหรอกนะ
ทำได้เพียงค่อยๆเล่าเรื่องราวที่พบเจอผ่านตัวหนังสือในโลกออนไลน์
ระหว่างที่ยังอยู่บนเกาะ
ฉันเกิดและโตมาในภาคเหนือ ฉันรักภูเขา รักการเดินป่า รักฤดูหนาว
ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับชีวิตบนเกาะ
ฉันอยากรู้ในสิ่งที่ฉันไม่รู้
เกาะที่ฝรั่งรู้จักกันดีว่าเป็น party island
คนไทยรู้กันดีว่ามี full moon party
แต่ได้ยินมาว่าเกาะนี้มีอะไรน่าสนใจมากกว่านั้น
ฉันอยากเห็นด้วยตาและหัวใจของฉันเอง
ที่พักหนึ่งเดือนบนเกาะ ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ถ้าพักคืนละ 500 บาท *30 วัน = 15,000 บาท
ถ้าพักคืนละ 1,000 บาท *30 วัน = 30,000 บาท
ตัวเลือกข้างบน ถ้าฉันยังมีเงินไม่มากกว่านั้น ฉันคงไม่ได้ออกเดินทาง
ฉันเลือกพักโฮสเทล นอนร่วมห้องกับคนแปลกหน้า
ซึ่งทั้งหมดที่ได้เจอเป็นคนต่างชาติ
ในราคา 100-150 บาทต่อคืน *30 วัน = ไม่เกิน 4,500 บาท
วิวจากที่พักคืนละ 150 ที่ได้
(Backpacker Club พะงัน)
ว่างๆฉันมักจะไปนั่งใกล้ๆ reception ช่วยรับแขก ดูแลลูกค้าฝรั่งบ้าง
ตามความสามารถที่ทำได้ นั่งคุยกับพี่ๆน้องๆ staff บ้าง
ถึงแม้จะมาคนเดียว แต่พวกเค้าทำให้รู้สึกเหมือนฉันเป็นคนในครอบครัว
มักจะเรียกฉันไปร่วมวงในมื้ออาหารด้วบ่อยๆ
ในห้องพักรวมที่มีนักเดินทางผ่านเข้ามาพักกาย
แล้วจากไปยังจุดหมายต่อไป คนแล้ว คนเล่า
ฉันพบผู้คนใหม่ๆ ที่เดินทางข้ามทวีปมาจากที่แสนไกล
เรายิ้ม ทักทาย พูดคุย แล้วบอกลาจากกันไปเมื่อถึงเวลา...
หนึ่งในนั้นเป็นรูมเมทสามหนุ่มจากฝรั่งเศส
เราไม่ได้คุยอะไรกันมากมายเท่าไหร่ นอกจากถามชื่อ มาจากไหน
ไปที่ไหนมาแล้วบ้าง แพลนจะทำอะไรบ้าง คุยเรื่องทั่วไปเล็กน้อย
สายวันรุ่งขึ้นหลังจากหนุ่มๆเช็คอิน
ท่อน้ำที่พักแตก น้ำไม่ไหล ทางที่พักกำลังแก้ไข ฉันเลยนอนงัวเงียรออาบน้ำ
แต่หนุ่มๆนี่สิเปลี่ยนเสื้อผ้า สะบัดผมเสร็จก็พร้อมออกไปข้างนอก
คือง่ายมาก ไม่ต้องล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำ!!
สักพักทั้งสามคนก็กลับมาที่ห้อง
หนึ่งในนั้นถามว่าวันนี้ฉันจะไปไหนทำอะไร พวกเค้ากำลังจะไปปีนเขาสนใจไปด้วยกันมั้ย
เท่านั้นแหละฉันรีบเด้งจากเตียง!!
เพราะตั้งใจจะไปปีนเขาสักครั้งให้ได้ แต่ยังไงล่ะ น้ำยังไม่ไหล!!
ณ จุดนั้นไม่ต้องคิดอะไรมากเลย
จะไปปีนเขาคนเดียวไม่ได้อยู่แล้วต้องหาเพื่อนไปด้วย
โอกาสดีแบบนี้ ฉันรีบตอบตกลง ขอเวลา 5 นาที
รีบลุกจากเตียงถือขวดน้ำดื่มมาล้างหน้า ลงครีมกันแดด
I'm ready!!!
(มีน้องหมาตามพวกเราไปด้วย น่ารักและอึดมาก ปีนทั้งหิน
ข้ามน้ำ เดินบนภูเขาชันๆตามทั้งขาไปและกลับมาพร้อมพวกเรา)
ถึงแม้พวกเราจะไปไม่ถึงยอดเขาหรา
เพราะเราไปผิดทาง เราไปจุดที่ใกล้ยอดเขา แต่จุดเริ่มเดินอยู่อีกฝั่งเขา (แต่ก็ยังยืนยันจะเดิน)
มีลื่นล้มกันบ้าง หนามต้นไม้เกี่ยว เจ็บตัว แต่มันสนุกมาก
พักโฮสเทลกับคนแปลกหน้าในราคาถูกมาแล้ว เลยลองหาที่พักฟรี(ติดต่อไว้ล่วงหน้าหลายวันก่อน)
จากเวปไซท์ couchsurfing เวปนี้มีเครือข่ายสมาชิกหลายประเทศ
ใครจะ backpack ไปต่างประเทศใช้บริการเวปนี้ได้ค่ะ
(โดยส่วนตัว ก่อนหน้านี้ที่บ้านเปิดรับเกสท์มาบ้างแล้ว คราวนี้เลยขอเป็นเกสท์ดูบ้าง)
ได้โฮสท์ฝรั่ง ชื่อคุณบีท อยู่เกาะพะงันมานาน มีทั้งมาอยู่บ้าง ไปอยู่ต่างประเทศบ้าง
เช็คจากโปรไฟล์ จาก reference แล้วดูปลอดภัย ชอบดำน้ำ ปีนเขา
จริงๆตั้งใจจะไปปีนเขาแต่โฮสติดต้องไปทริปดำน้ำเลยอด
แต่ก็ยังพาเที่ยวใกล้ๆที่พักและดูแลเราอย่างดีมากจนเราแอบเกรงใจ
(รูปนี้โฮสท์ถ่ายให้ ^^ )
ค่ำวันนั้นโฮสท์พาไป drum circle ที่บาร์เล็กๆริมหาด
เป็นปาร์ตี้กลองที่ทุกคนมาล้อมรอบกองไฟ ในมือมีกลองคนละใบ
ทั้งกลองยาว กลองสั้น กลองเล็กบ้างใหญ่บ้าง
เครื่องเคาะจังหวะอื่นอีกเล็กน้อย มันสนุกตรงที่รอบวงมีจังหวะเดียวกัน
แต่ทุกคนสามารถครีเอทจังหวะการตีของตัวเองยังไงก็ได้ให้มันเข้ากับจังหวะของรอบวง
แรกๆเกร็งมาก แต่พอเราปล่อยใจให้ไปตามจังหวะแล้วมันรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลก
ที่มีแต่จังหวะกับเสียงกลอง
มันคล้ายๆกับจังหวะชีวิต ที่เราเองต้องหาจังหวะของเราเอง ที่เข้าจังหวะกับคนอื่นๆให้เจอ
ถึงตอนนี้ ถ้าถามว่าฉันมาที่นี่ทำไม
ฉันไม่รู้หรอกว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง
ฉันแค่อยากเจอผู้คนที่ฉันคงไม่มีโอกาสได้เจอ ถ้าอยู่ในที่เดิมๆ
อยากลองชิมของแปลกๆ
อยากเห็นตัวเองในมุมอื่น
(ยำสาหร่ายข้อ หาชิมได้ที่พะงัน)
(พะงันในวันธรรมดา สงบเงียบ)
(ทรายขาวๆ กับต้นสนทรงหัวเห็ด)
(น้ำลงบ้าง น้ำขึ้นบ้าง เป็นธรรมชาติ)
(ทะเลแหวก เกาะม้า)
(น้ำตกธารเสด็จ. ก้อนหินที่มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ปปร. ภปร.
รีวิวนี้เน้นไปที่เรื่องเล่า กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
ไม่ได้ลงรายละเอียดการเดินทางไว้นะคะ
ถ้าอยากทราบข้อมูลตรงไหน หลังไมค์มาได้ค่ะ ^^
[CR] *** 30 วัน ฉันหยุดงานมาติดเกาะ : พะงัน วันพระจันทร์ไม่เต็มดวง*** ตอน1
หลังจากขอเดินป่า กับคนแปลกหน้า ที่ดอยหลวงเชียงดาว
ในกระทู้นี้
http://m.pantip.com/topic/33817090
คราวนี้ขอแบกเป้ ใช้วันลาหยุดยาวๆบนเกาะบ้างค่ะ
(ภาพทั้งหมดจากกล้อง I-Phone)
Facebook : http://www.facebook.com/AloneAroundMyWay
หนึ่งชีวิตเราจะต้องการอะไรมากมายขนาดไหนกัน
ฉันเองก็ไม่รู้หรอก
ฉันตัดสินใจ ลองปล่อยมือจากความเคยชิน ทั้งที่ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง
ตัดสินใจออกไปเจอกับอะไรข้างหน้า
ที่ยังไม่รู้ว่ามันจะหน้าตาแบบไหน
ฉันแบกเป้ที่จัดข้าวของสำคัญ ...
เดี๋ยวนะ...
ฉันเพิ่งพูดว่าของ "สำคัญ"
ระหว่างจัดเป้ อย่างน้อยๆฉันก็คงพอได้รู้แล้วว่า
อะไรบ้างที่สำคัญจริงๆเมื่อฉันต้องแบกน้ำหนักของมันด้วยสองบ่าของฉันเอง
ฉันขอหยุดงานหนึ่งเดือน เพื่อไปใช้ชีวิตบนเกาะ
สิ่งที่คนใกล้ตัวถามหลังจากรู้แผนการมีทั้ง "ไปทำไม?" "ไปอยู่ยังไง?" "หนึ่งเดือนเลยหรอ?"
"ไม่ทำงาน?" "มีตัง?" "บ้าไปแล้ว" "ติสแตก" "ไปอยู่กับใคร?"
ฉันไม่ได้ตอบคำถามทั้งหมดหรอกนะ
ทำได้เพียงค่อยๆเล่าเรื่องราวที่พบเจอผ่านตัวหนังสือในโลกออนไลน์
ระหว่างที่ยังอยู่บนเกาะ
ฉันเกิดและโตมาในภาคเหนือ ฉันรักภูเขา รักการเดินป่า รักฤดูหนาว
ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับชีวิตบนเกาะ
ฉันอยากรู้ในสิ่งที่ฉันไม่รู้
เกาะที่ฝรั่งรู้จักกันดีว่าเป็น party island
คนไทยรู้กันดีว่ามี full moon party
แต่ได้ยินมาว่าเกาะนี้มีอะไรน่าสนใจมากกว่านั้น
ฉันอยากเห็นด้วยตาและหัวใจของฉันเอง
ที่พักหนึ่งเดือนบนเกาะ ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ถ้าพักคืนละ 500 บาท *30 วัน = 15,000 บาท
ถ้าพักคืนละ 1,000 บาท *30 วัน = 30,000 บาท
ตัวเลือกข้างบน ถ้าฉันยังมีเงินไม่มากกว่านั้น ฉันคงไม่ได้ออกเดินทาง
ฉันเลือกพักโฮสเทล นอนร่วมห้องกับคนแปลกหน้า
ซึ่งทั้งหมดที่ได้เจอเป็นคนต่างชาติ
ในราคา 100-150 บาทต่อคืน *30 วัน = ไม่เกิน 4,500 บาท
วิวจากที่พักคืนละ 150 ที่ได้
(Backpacker Club พะงัน)
ว่างๆฉันมักจะไปนั่งใกล้ๆ reception ช่วยรับแขก ดูแลลูกค้าฝรั่งบ้าง
ตามความสามารถที่ทำได้ นั่งคุยกับพี่ๆน้องๆ staff บ้าง
ถึงแม้จะมาคนเดียว แต่พวกเค้าทำให้รู้สึกเหมือนฉันเป็นคนในครอบครัว
มักจะเรียกฉันไปร่วมวงในมื้ออาหารด้วบ่อยๆ
ในห้องพักรวมที่มีนักเดินทางผ่านเข้ามาพักกาย
แล้วจากไปยังจุดหมายต่อไป คนแล้ว คนเล่า
ฉันพบผู้คนใหม่ๆ ที่เดินทางข้ามทวีปมาจากที่แสนไกล
เรายิ้ม ทักทาย พูดคุย แล้วบอกลาจากกันไปเมื่อถึงเวลา...
หนึ่งในนั้นเป็นรูมเมทสามหนุ่มจากฝรั่งเศส
เราไม่ได้คุยอะไรกันมากมายเท่าไหร่ นอกจากถามชื่อ มาจากไหน
ไปที่ไหนมาแล้วบ้าง แพลนจะทำอะไรบ้าง คุยเรื่องทั่วไปเล็กน้อย
สายวันรุ่งขึ้นหลังจากหนุ่มๆเช็คอิน
ท่อน้ำที่พักแตก น้ำไม่ไหล ทางที่พักกำลังแก้ไข ฉันเลยนอนงัวเงียรออาบน้ำ
แต่หนุ่มๆนี่สิเปลี่ยนเสื้อผ้า สะบัดผมเสร็จก็พร้อมออกไปข้างนอก
คือง่ายมาก ไม่ต้องล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำ!!
สักพักทั้งสามคนก็กลับมาที่ห้อง
หนึ่งในนั้นถามว่าวันนี้ฉันจะไปไหนทำอะไร พวกเค้ากำลังจะไปปีนเขาสนใจไปด้วยกันมั้ย
เท่านั้นแหละฉันรีบเด้งจากเตียง!!
เพราะตั้งใจจะไปปีนเขาสักครั้งให้ได้ แต่ยังไงล่ะ น้ำยังไม่ไหล!!
ณ จุดนั้นไม่ต้องคิดอะไรมากเลย
จะไปปีนเขาคนเดียวไม่ได้อยู่แล้วต้องหาเพื่อนไปด้วย
โอกาสดีแบบนี้ ฉันรีบตอบตกลง ขอเวลา 5 นาที
รีบลุกจากเตียงถือขวดน้ำดื่มมาล้างหน้า ลงครีมกันแดด
I'm ready!!!
(มีน้องหมาตามพวกเราไปด้วย น่ารักและอึดมาก ปีนทั้งหิน
ข้ามน้ำ เดินบนภูเขาชันๆตามทั้งขาไปและกลับมาพร้อมพวกเรา)
ถึงแม้พวกเราจะไปไม่ถึงยอดเขาหรา
เพราะเราไปผิดทาง เราไปจุดที่ใกล้ยอดเขา แต่จุดเริ่มเดินอยู่อีกฝั่งเขา (แต่ก็ยังยืนยันจะเดิน)
มีลื่นล้มกันบ้าง หนามต้นไม้เกี่ยว เจ็บตัว แต่มันสนุกมาก
พักโฮสเทลกับคนแปลกหน้าในราคาถูกมาแล้ว เลยลองหาที่พักฟรี(ติดต่อไว้ล่วงหน้าหลายวันก่อน)
จากเวปไซท์ couchsurfing เวปนี้มีเครือข่ายสมาชิกหลายประเทศ
ใครจะ backpack ไปต่างประเทศใช้บริการเวปนี้ได้ค่ะ
(โดยส่วนตัว ก่อนหน้านี้ที่บ้านเปิดรับเกสท์มาบ้างแล้ว คราวนี้เลยขอเป็นเกสท์ดูบ้าง)
ได้โฮสท์ฝรั่ง ชื่อคุณบีท อยู่เกาะพะงันมานาน มีทั้งมาอยู่บ้าง ไปอยู่ต่างประเทศบ้าง
เช็คจากโปรไฟล์ จาก reference แล้วดูปลอดภัย ชอบดำน้ำ ปีนเขา
จริงๆตั้งใจจะไปปีนเขาแต่โฮสติดต้องไปทริปดำน้ำเลยอด
แต่ก็ยังพาเที่ยวใกล้ๆที่พักและดูแลเราอย่างดีมากจนเราแอบเกรงใจ
(รูปนี้โฮสท์ถ่ายให้ ^^ )
ค่ำวันนั้นโฮสท์พาไป drum circle ที่บาร์เล็กๆริมหาด
เป็นปาร์ตี้กลองที่ทุกคนมาล้อมรอบกองไฟ ในมือมีกลองคนละใบ
ทั้งกลองยาว กลองสั้น กลองเล็กบ้างใหญ่บ้าง
เครื่องเคาะจังหวะอื่นอีกเล็กน้อย มันสนุกตรงที่รอบวงมีจังหวะเดียวกัน
แต่ทุกคนสามารถครีเอทจังหวะการตีของตัวเองยังไงก็ได้ให้มันเข้ากับจังหวะของรอบวง
แรกๆเกร็งมาก แต่พอเราปล่อยใจให้ไปตามจังหวะแล้วมันรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลก
ที่มีแต่จังหวะกับเสียงกลอง
มันคล้ายๆกับจังหวะชีวิต ที่เราเองต้องหาจังหวะของเราเอง ที่เข้าจังหวะกับคนอื่นๆให้เจอ
ถึงตอนนี้ ถ้าถามว่าฉันมาที่นี่ทำไม
ฉันไม่รู้หรอกว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง
ฉันแค่อยากเจอผู้คนที่ฉันคงไม่มีโอกาสได้เจอ ถ้าอยู่ในที่เดิมๆ
อยากลองชิมของแปลกๆ
อยากเห็นตัวเองในมุมอื่น
(ยำสาหร่ายข้อ หาชิมได้ที่พะงัน)
(พะงันในวันธรรมดา สงบเงียบ)
(ทรายขาวๆ กับต้นสนทรงหัวเห็ด)
(น้ำลงบ้าง น้ำขึ้นบ้าง เป็นธรรมชาติ)
(ทะเลแหวก เกาะม้า)
(น้ำตกธารเสด็จ. ก้อนหินที่มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ปปร. ภปร.
รีวิวนี้เน้นไปที่เรื่องเล่า กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
ไม่ได้ลงรายละเอียดการเดินทางไว้นะคะ
ถ้าอยากทราบข้อมูลตรงไหน หลังไมค์มาได้ค่ะ ^^